วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

โบราณสถานที่น่าสนใจ

อำเภอแม่จัน...มีวัดและโบราณสถานที่หลายสนใจหลายแห่ง

ไปดูกันเลย......


วัดพระธาตุดอยกู่แก้ว


         วัดพระธาตุดอยกู่แก้วตั้งอยู่บนเนินเขาชายขอบของพื้นที่ชุ่มน้ำเวียงหนองหล่ม  ที่ตั้งอยู่บ้านป่าสักหลวง  ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน  จ.เชียงราย  เป็นวัดที่ประชาชนในท้องถิ่นเชื่อว่าสร้างขึ้นมาในสมัยอาณาจักรโยนกนคร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ เดิมพบว่าเป็นวัดร้างที่ประชาชนให้ความเคารพมาตั้งแต่อดีต บริเวณถนนทางขึ้นด้านหน้าวัดสามารถมองเห็นวิวของพื้นที่ชุ่มน้ำเวียงหนองหล่มทั้่งหมด และก่อนลงไปเที่ยวสามารถแวะขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยกู่แก้วได้นะค่ะ



อธิบายการเดินทาง : ออกจากตัวอำเภอแม่จันใช้เส้นทางแม่จัน - เชียงแสน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1016 มาถึง กม. 11  บ้านป่าสักหลวง ถึงบริเวณหน้าที่ทำการเทศบาลตำบลจันจว้าเลี้ยวขวาทางเข้าวัดพระธาตุดอยกู่แก้ว ผ่านตลาดสด ผ่านหนองมโนราห์ เส้นทางประมาณ 2 กม. ถึงวัดพระธาตุดอยกู่แก้วมีทางขึ้นด้านหลังจนถึงตัววัดด้านบนเนิน

สถานที่ตั้ง
ที่อยู่: บ้านป่าสักหลวง
ตำบล: จันจว้าใต้
อำเภอ: แม่จัน
จังหวัด: เชียงราย
รหัสไปรษณีย์: 5727

อ้างอิง : http://www.biogang.net/ecotourism_view.php?uid=42887&id=126820



พระธาตุจอมสวรรค์ 



       พระธาตุจอมสวรรค์ นับเป็นพระธาตุเก่าแก่ อีกแห่งหนึ่งของอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนดอยบ้านสันขี้เหล็ก ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน จ.เชียงราย สันนิษฐานว่าสร้งขึ้นประมาณ 700 ปี ในสมัยพ่อมังรายมหาราช เดิมชื่อพระธาตุดอยขวยต่อ ต่อมาในปี พ.ศ.2472 โดยการนำของครูบาทิพย์บ้านเหลวได้บูรณะปฏิสังขรพระธาตุขึ้นใหม่ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น พระธาตุจอมสวรรค์




พระธาตุจอมจันทร์

        ครูบาทิพย์ เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2458 โดยเห็นนิมิตในคืนหนึ่งเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวระยิบระยับสีเขียวบนดอยที่ตั้งองค์พระธาตุ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงไปสำรวจพบว่าเป็นดอยที่เหมาะสม มีคูล้อมรอบ ไม่ติดกับดอยลูกใดเลยในบริเวณใกล้เคียงกัน จึงชักชวนสาธุชนร่วมกันก่อสร้างพระเจดีย์ ต่อมาในพ.ศ. 2468 ได้ก่อสร้างวิหาร กุฎิ และศาลา ตั้งชื่อว่าวัดพระธาตุจอมจันทร์ มีภิกษุจำพรรษาติดต่อกันมาจนถึง พ.ศ. 2480 ได้เกิดไฟป่าลุกลามไหม้ศาลาและกุฎิจนหมด เหลือแต่พระเจดีย์และวิหาร ด้วยศรัทธาชาวบ้านจึงย้ายมาสร้างวัดอยู่ข้างล่าง ห่างวัดเดิม 300 เมตร วัดพระธาตุจอมจันทร์จึงได้กลายเป็นวัดร้างแต่นั้นมา จนถึงพ.ศ. 2542 จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ ความเชื่อ ในการไหว้ พระธาตุจอมจันทร์ เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้




การเดินทาง : ออกจากอำเภอเชียงแสนโดยทางหลวงหมายเลข 1016 สายเชียงราย-เชียงแสน มุ่งสู่อำเภอแม่จันผ่านเทศบาลจันจว้า ตำบลจอมสวรรค์ และตำบลสันทราย ถึงปากทางเข้าพระธาตุจอมจันทร์

อ้างอิง : http://www.tlcthai.com/travel/8462



วัดกาสา

    วัดกาสา ตั้งอยู่เลขที่ 73 บ้านแม่จัน หมู่ที่ 3 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 1 ตารางวา โฉนดเลขที่ 267,152 อาณาเขต ทิศเหนือจดที่เอกชน ทิศใต้จดถนนลาวจกราช ทิศตะนออกจดถนนลาวจกราช ทิศตะวันตกจดถนนสิงหนวัติ ที่ธรณีสงฆ์จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา โฉนดเลขที่ 249,157 อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ศาลาพระนอนเฉลิมพระเกียรติครบ 5 รอบ รัชกาลที่ 9 โรงครัว ศาลาอเนกประสงค์และศาลาบำเพ็ญกุศล ปูชนียวัตถุมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง 6 องค์ พระพุทธรูปอีก 1 องค์ ปรางค์ 1 องค์ และเจดีย์ 1 องค์    วัดกาสา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2434 โดยมีพระครูสัทธาภิวัฒน์ (ครูบาอิ่นแก้ว อภิชโย) เป็นผู้สร้างวัด ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อ พ.ศ. 2514 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ พระครูสัทธาภิวัฒน์ (ครูบาอิ่นแก้ว อภิชโย) เจ้าอธิการคำปัน ปณฺฑิโต พระครูธีรธรรณวิวัฒน์ (ศรีมอย ธมฺมธีโร) พระครูอนุวัตรธรรมคุณ (อิ่นคำ จกฺกวโร) เจ้าอธิการส่งศักดิ์ อินฺทวีโร และเจ้าอธิการบุญยัง สํวุฑฺโฒ การศึกษามีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมเปิดสอน พ.ศ. 2512 แผนกสามัญ เปิดสอน พ.ศ. 2516 และโรงเรียนสามัญการศึกษาผู้ใหญ่ระดับ 4  ปัจจุบันวัดกาสามี พระเดช เตชวโว เจ้าอาวาสเป็นเจ้าอาวาสวัดกาสา อายุ 55 ปี 35 พรรษา วิทธฐานะ นักธรรมเอก ตั้งอยู่เลขที่ 73 บ้านแม่จัน หมู่ที่3 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โทรศัพท์ 08-5706-0057




วัดกาสา ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 811 กม.ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 10 ชั่วโมง 6 นาที 
อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 29.9 กม.ใช้เวลาเดินทางตัวจังหวัดประมาณ 32 นาที 
อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 0.7 กม.ใช้เวลาเดินทางตัวอำเภอประมาณ 2 นาที 

อ้างอิง : http://www.m-culture.in.th/album/42421




วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม

    เมื่อปี พ.ศ. 2532 ทางวัดนำโดยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) ได้จัดซื้อที่ดินบริเวณบ้านป่าไร่ ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อก่อสร้างวัดจีนนิกายแห่งใหม่ขึ้นโดยตั้งชื่อว่า "วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม" โดยมีการวางศิลาฤกษ์ธรรมศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่าในปี พ.ศ. 2536 และก่อสร้างศาลากตัญญูอนุสรณ์พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้ง) เมื่อปี พ.ศ. 2537 และได้น้อมศรัทธาสร้างวัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี โดยมุ่งการเผยแผ่พุทธศาสนาฝ่ายมหายานและส่งเสริมการศึกษาให้แก่ชาวไทยภูเขาในพื้นที่ภาคเหนือ




  

การเดินทาง : ไปตามถนนเชียงราย-แม่สาย จนถึงทางแยกเข้าเชียงแสน เลี้ยวขวา ไปตามถนนเชียงแสนประมาณ 20กิโลเมตร (เลยพิพิธภัณฑ์พระไปประมาณ 4 กิโลเมตร) เลี้ยวขวาอีกครั้งตรงสะพานท่าข้าวเปลือก ขับเข้าไปตามถนนสายกิ่วพร้าว-บ้านปงน้อย อีกประมาณ 11 กิโลเมตร จะเห็นวัดอยู่ด้านขวามือ




ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว



สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอำเภอแม่จัน



ดอยแม่สลอง

     ดอยแม่สลอง คือเทือกเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย อยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า   ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน บนดอยแม่สลองเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวจีนฮ่อ หรืออดีตกองทัพจีนกองพล 93 ทหารจีนธนชาติที่ถูกกองทัพของเหมาเจ๋อตุงตีจนต้องถอยร่นลงมายังภาคเหนือของไทย แล้วก็โดนพม่าตีจนต้องถอยล่นเข้ามาอาศัยแผ่นดินทไทยที่บนดอยแม่สลอง อดีตทหารรุ่นเก่าได้ช่วยไทยเราไว้ก็เยอะในการของการปราบปรามพวกคอมมิวนิสต์ในยุคก่อนๆ ปัจจุบันก็สร้างปัญหาไว้ก็ไม่ใช่น้อย  สิ่งที่น่าสนใจของดอยแม่สลองคือทัศนียภาพที่งดงาม จากถนนหลายหลักหมายเลข 1 มีเส้นทางผ่านดอยแม่สลองออกมาทางท่าตอน ทะลุเข้าฝาง  เส้นทางขึ้นดอยแม่สลองมีทัศนียภาพที่สวยงาม ของข้างทางปลูกซากุระไว้ตลอดในช่วงฤดูหนาวจะออกดอกสวยงามมาก ซากุระนี่เองที่ทำให้ดอยแม่สลองมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาอันรวดเร็ว  บนดอยแม่สลองมีบ้านพักในบรรยากาศดีๆ ไว้บริการหลายแห่ง และมีร้านอาหารจีน มีชารสดีขึ้นชื่อให้ได้ชิมแล้วซื้อกลับบ้าน 



การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงรายใช้เส้นทางสาย 110 ผ่านอำเภอแม่จันไปเล็กน้อย  ปตท ปั้มแรกเลยจากปั้มไปเล็กน้อยคือทางแยกขวาขึ้นดอยแม่สลอง ที่ปั้มน้ำมันแห่งนี้คือจุดต่อรถตู้ที่จะขึ้นดอยแม่สลอง หากมีความประสงค์ขับรถขึ้นไปเองก็ได้ แต่ถ้าจะเช่ารถให้ติดต่อเช่าที่ปั้ม ระยะทางจากแยกขึ้นดอยแม่สลองประมาณ 12 กิโลเมตร




พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี

            เป็นเจดีย์สีขาวงามสง่าตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของดอยแม่สลอง ชื่อว่า พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี  ทางขึ้นอยู่เลยบริเวณหมู่บ้านเพียงเล็กน้อย มีทางแยกขึ้นเขา ทางขึ้นเป็นทางชันมาก หากรถสภาพไม่ดีหรือรถดีแต่คนขับไม่เก่งไม่สมควรขึ้น  บริเวณจอดรถมีไม่มาก  ด้านทิศตะวันออกหรือด้านหลังของเจดีย์เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ์ที่สวยงาม  เมื่ออยู่บนจุดนี้มองลงไปยังเบื้องล่างจะเห็นวิวที่สวยงามที่สุดของทุกมุมมองของดอยแม่สลอง


      อยู่ห่างจากเชียงราย 36 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอแม่จัน เป็นหมู่บ้านทางวัฒนธรรมเพื่อแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง สร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 400 ไร่  ภายในลานทองวิลเลจมีอุทยานไม้ดอกไม้ประดับ และไร่ชา สวนท้อ  มีกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่างเช่น นั่งเกวียน  ขี่ช้าง การแสดงของช้าง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมของประเทศลุ่มน้ำโขงค่าธรรมเนียมการเข้าชม   ท่านละ 180 บาท  ต่างชาติ 300 บาท



หมู่บ้านชาวอาข่าหล่อชา

      เป็นหมู่บ้านชาวเขา เป็นโครงการนำร่องของ โครงการหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม  ภายในหมู่บ้านนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตประจำวันตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ชมหมู่บ้านชาวอาข่าในแบบเดิมๆ ที่ไม่ได้เสริมแต่งเพื่อการท่องเที่ยว หากมีเวลาน่าแวะไปเยี่ยมชม หมู่บ้านหล่อชา อยู่ในเขตอำเภอแม่จัน เลยจากลานทองวิลเลจเล็กน้อย  จากลานทองวิลเลจ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1089 แม่จัน-ท่าตอน ผ่านป้อมตำรวจตรงไปอีก 1 กิโลเมตรถึง




ทุ่งบัวตองดอยหัวแม่คำ


       ชมทุ่งบัวตองบานท่ามกลางหมู่บ้านชาวเขา ดอยหัวยแม่คำเป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหลายเผ่าในแต่ละหมู่บ้านมีบ้านในรูปแบบของตนเองปลูกอยู่ตามที่ราบไหล่เขาและมีบัวตองกระจายอยู่ทั่วไปตามหมู่บ้าน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะออกดอกสีเหลืองไปทั่วดอย  นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกบัวตองแล้วยังได้ชมวิถีชีวิตของชาวเขาอีกด้วย




การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางขึ้นดอยแม่สลอง ระหว่างทางสังเกตป้ายหมู่บ้านเทอดไทย เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมู่บ้านเทอดไทย ตรงไปจนสุดเส้นทางเกือบถึงชายแดนคือดอยหัวแม่คำ




ชมวิว ชิมชา ดอยวารี


        ดอยวาวี อยู่ในเขตอำเภอแม่สรวยต่อเขตอำเภอแม่จัน อยู่ห่างจากจังหวัดเชียงรายประมาณ 100 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนที่มีแปลงปลูกชาพันธุ์ดีทั่วทั้งเนินเขา เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม บนดอยยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม  นอกจากมีไร่ชาให้ชมแล้วที่ดอยวาวียังมีรีสอร์ทบรรยากาศดีไว้รองรับนักท่องเที่ยว และมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น นั่งม้าขึ้นไปเที่ยวบนดอย ชมการเก็บชา และยังมีชารสดีให้ได้ลิ้มลอง ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีเทศกาลชิมชา  นับว่าเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจ






น้ำตกห้วยก้างปลา



            น้ำตกห้วยก้างปลาตั้งอยู่บริเวณตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดอยบ่อ มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาเห็น  ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะโดดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงาม เพื่อเป็นการสงวนคุ้มครองพื้นที่ให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อประโยชน์เป็นแหล่งศึกษาวิจัยค้นคว้า และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน    และเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพลักษณะทั่วไปของน้ำตกห้วยก้างปลาเป็นเทือกเขาสูงชัน ทอดตัวยาวแนวเหนือ-ใต้ พื้นที่ลาดเอียงไป ทางทิศเหนือ มีความลาดชันระหว่าง 20-60 เปอร์เซ็นต์ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 600-1050 เมตร

      




อ้างอิง : http://www.tourdoi.com/north/chiangrai/page4.htm


วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มารู้จักอำเภอแม่จันกันเถอะ...

อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย






คำขวัญจังหวัด : เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง
คำขวัญอำเภอ : พระธาตุกู่แก้วคู่บ้าน แม่น้ำจันคู่เมือง ลิ้นจี่หวานลือเลื่อง รุ่งเรืองวัฒนธรรม
ที่อยู่ที่ว่าการอำเภอ : ที่ว่าการอำเภอแม่จัน เลขที่ 4 หมู่ 2 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย 57110











ประวัติความเป็นมา



          ประวัติความเป็นมาอำเภอแม่จันเดิมเป็นหมู่บ้านหรือตำบลหนึ่งในเขตควบคุมของเมืองเชียงแสนหลวงตามพงศาวดารโยนกกล่าวว่าเมืองเชียงแสนมีพื้นที่ครอบคลุมบริเวณที่ราบลุ่มเชียงแสนทั้งหมดซึ่งอาณาเขตที่กว้างขวางต่อมาเมืองเชียงแสนหลวงได้เกิดน้ำท่วมบ่อยๆปีหนึ่งน้ำจะท่วมเป็นเวลาหลายเดือน ชาวบ้านแถบนี้ที่มีอาชีพเพาะปลูกและทำนาไม่สามารถที่จะทำนาได้ จึงพากันอพยพมาทางใต้ ประมาณ 25 กม. มาอยู่ที่ " บ้านขิ" (ซึ่งปัจจุบันคือบ้านแม่คี หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 9 ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน) ซึ่งมีบริเวณเป็นที่ราบกลุ่มกว้างมีแม่น้ำไหลผ่าน ทำเลดี เหมาะแก่การเพาะปลูก และทำนา และยังมีชาวบ้านมาตั้งบ้านเรือนก่อนแล้วเกือบ 400 หลังคาเรือน ประกอบกับเป็นเส้นทางค้าขายยังรัฐฉาน และยูนาน และต่อมาชาวบ้านเมืองเชียงแสนหลวง ก็อพยพตามมาอยู่รวมกันที่บ้านขิมากเพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ.2424 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าให้เจ้าอินต๊ะ ซึ่งครองเมืองลำพูน ลำปาง และเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ประมาณ 1,500 ครัวเรือน ไปตั้งถิ่นฐานที่เมืองเชียงแสนหลวง และพระราชทานบรรดาศักดิ์ เจ้าอินต๊ะเป็นพระยาเดชดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเชียงแสนหลวง




ข้อมูลอำเภอแม่จัน



พื้นที่ / ลักษณะภูมิอากาศ

เนื้อที่ / พื้นที่ :   551  ตร.กม.
สภาพภูมิอากาศ :  แบบมรสุม มี 3 ฤดู ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน

การปกครอง
หมู่บ้าน : 136  หมู่บ้าน   ตำบล :  11  ตำบล   เทศบาล :  4 แห่ง   องค์การบริหารส่วนตำบล :    9  แห่ง

อาชีพ
อาชีพหลัก :  ทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์
อาชีพรอง : จักสาน ทอผ้า รับจ้าง

การศึกษา
โรงเรียนประถม :  50  โรง
โรงเรียนมัธยม : 3 โรง

ศาสนา
วัด : 70  แห่ง
โบสถ์ :  2 แห่ง

ประชากร

จำนวนประชากรชาย :  65,582  คน
จำนวนประชากรหญิง : 67,120  คน
รวม :  132,684  คน
ความหนาแน่น :  222 คน/ตร.กม.

การเกษตรและอุตสาหกรรม

ผลผลิตทางการเกษตร :  ข้าว พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก เลี้ยงสัตว์
แหล่งน้ำสำคัญ : แม่น้ำจัน 
โรงงานอุตสาหกรรม : แม่น้ำกก แม่น้ำคำ

ทางบก : รถยนต์ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 110,1016,1089







          อ้างอิง : http://www.chiangraifocus.com/2010/aumpher.php?aid=9